"ทำไมคนไข้เยอะมากมายขนาดนี้นะ ตรวจไม่ทันแล้ว อยากแยกร่างเป็นสิบร่างจริงๆ"
"เมื่อไหร่คุณหมอจะมาตรวจและให้ยาสักทีคะ? รอมาตั้งนานแล้ว"
"ถ้าให้นอนอยู่ตรงนี้ดิฉันทนไม่ได้หรอกนะคะ เมื่อไหร่จะให้นอนในห้องพักได้สักที"
"ฮือๆ แม่คะ ฟื้นขึ้นมาสิคะ ตื่นลืมตามามองหนูสิคะ ฮือออ แม่คะๆๆๆ แม่......"
"ไม่จริง ผมไม่ได้เป็นเอดส์ หมอโกหกผม ผมไม่เชื่อหรอก ไม่มีทางเป็นไปได้"
"ยังไงขอขอบคุณคุณหมอและคุณพยาบาลมากนะคะที่ช่วยเหลือ และดูแลเป็นอย่างดี ประทับใจจริงๆค่ะ"
คุณๆเคยสังเกตอารมณ์ของตัวเองในแต่ละวันหรือเปล่าคะ บางเวลาเราก็สงบนิ่ง อารมณ์เยือกเย็น ไม่นานนัก อารมณ์โกรธ หรือไม่พอใจก็เกิดขึ้น บางทีก็มีเรื่องให้เรารู้สึกเหงา อยู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาเองได้ บางทีก็มีอารมณ์เศร้าๆอยู่ลึกๆ แต่พอมันหายไป อารมณ์สนุกสนานก็เริ่มก่อตัว
รู้สึกไหมคะว่า อารมณ์ต่างๆมันผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป อารมณ์ความรู้สึกใหม่ๆก็เข้ามาแทนที่ บางคนมีอารมณ์คงที่อยู่ได้นาน เป็นเพราะมีความสามารถในการควบคุมระงับอารมณ์ได้มากกว่าคนอื่นๆ แต่ถ้ายังไม่บรรลุเข้าขั้นโสดาบัน อรหันต์ หรือนิพพานแล้ว มันต้องมีอารมณ์ยินดีและไม่ยินดีเกิดขึ้นอยู่เสมอในชีวิตประจำวันของเราแน่ๆ
พอมาทำงานในห้องฉุกเฉินก็รู้สึกว่าห้องฉุกเฉินช่างไม่แตกต่างกับตัวเราเลยค่ะ เหมือนกับประโยคตัวอย่างข้างต้นที่เราจะพบเจอได้ทุกวัน บางครั้งห้องฉุกเฉินก็พลุกพล่าน เต็มไปด้วยผู้คน บางครั้งมีแต่ความวุ่นวาย เสียงเอะอะโวยวายลั่นห้องไปหมด (โดยเฉพาะเวลาคนเมาสุราเข้ามา) เสมือนกับว่าเผชิญอยู่กับพายุไซโคลนลูกใหญ่ ผ่านไปสักพักก็เงียบสงบ (รู้สึกดีมากๆ แต่สงบได้ไม่นานเดี๋ยวจะมีความวุ่นวายตามมาอีกเป็นระลอกๆ) บางทีก็มีแต่ความอิ่มเอมยินดี เมื่อคนไข้หายเจ็บป่วย และกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
เวลาที่เรามองเข้ามาจากมุมกว้างในภาพรวม และเฝ้าดูมันอย่างเงียบๆ ก็ทำให้เราสามารถเข้าใจอะไรๆได้ดีมากขึ้น วงจรอารมณ์ที่เกิดขึ้นทั้งกับตัวเราเองและในห้องฉุกเฉินเป็นเรื่องที่เราควรจะได้ทบทวน และรู้เท่าทันกับอารมณ์ต่างๆเหล่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เราเองก็ไม่ได้อยากให้อารมณ์ไม่พึงพอใจได้เกิดขึ้น มันขึ้นกับสิ่งเร้าที่มากระทบกับการรับรู้(ผัสสะ)ของเราร่วมด้วย และสิ่งเร้านั้นก็มาปรุงแต่งอารมณ์ของเราอยู่ทุกขณะ หากเราไม่รู้ตัว เราก็จะหลงทำตามอารมณ์ของเราไปง่ายๆด้วย การรู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ เปรียบเสมือนเป็นวัคซีนทางอารมณ์ ป้องกันไม่ให้อารมณ์ปะทุออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ มันจะช่วยให้เราสามารถยับยั้งชั่งใจของเราไว้ให้มั่นคง ไม่หวั่นไหวไปกับเหตุต่างๆที่เข้ามาท้าทายให้เราตอบสนองอยู่เสมอ โดยเฉพาะในห้องฉุกเฉิน ซึ่งเป็นที่ๆมีโอกาสกระทบกระทั่งกันทางอารมณ์ได้ง่ายๆ ไม่ว่ากับคนไข้ กับญาติคนไข้ กับเพื่อนร่วมงาน พยาบาล น้องๆนักศึกษา บวกกับความเหนื่อยและอ่อนล้าจากการทำงาน ก็ทำให้เราสามารถทำตามใจตัวเองได้อยู่บ่อยๆ คงไม่มีใครอยากให้อารมณ์บูดๆเกิดขึ้นกับตัวเราและคนรอบข้างของเราหรอกนะคะ แต่อย่างว่า พูดไปก็ง่าย ทำจริงๆมันยากมากค่ะกว่าจะสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองให้คงที่และอยู่กับร่องกับรอย ก็คงต้องอาศัยความอดทน วุฒิภาวะ เวลาและประสบการณ์ที่ผ่านไปจะสอนเราให้รู้จักจัดการกับสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น
อยากจะให้สังคมคนอีอาร์และ prehos เสริมสร้างวัคซีนอารมณ์กันมากๆด้วยการดูจิตของตนเอง เอารอยยิ้มเข้าสู้ เพื่อรองรับพายุอารมณ์ วงจรอารมณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราและการทำงานในห้องฉุกเฉินด้วยกันนะคะ มาร่วมกันฉีดวัคซีนอารมณ์กันดีกว่า จะได้มีแต่ความสุขกันทุกคนค่ะ